สายแลนมีกี่ประเภท: ความหมายและประโยชน์ในปัจจุบัน

สายแลน มีกี่ประเภท

สายแลนเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยสายแลนจะถูกออกแบบมาให้สามารถส่งสัญญาณข้อมูลระยะไกลได้โดยมีความเสถียรสูง และเสถียรภาพข้อมูลสูง หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ “สายแลนมีกี่ประเภท” ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าสายแลนมีประเภทอะไรบ้าง และข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท

สายแลนและประเภทของสายแลน
สายแลนเป็นสายที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยมีหน้าที่ในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ซึ่งจะประกอบไปด้วยคอมพิวเตอร์ ตัวแทนของผู้ใช้งาน หรืออุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อื่น ๆ เรามาดูกันว่าสายแลนมีประเภทอะไรบ้าง และประโยชน์ของการใช้สายแลน

ประเภทของสายแลนแบบยาง
สายแลนแบบยางเป็นประเภทที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ในระยะสั้น ๆ เนื่องจากขนาดสายแลนแบบยางมีขนาดเล็ก ตามมาตรฐาน Cat5e และ Cat6 ประโยชน์ในการใช้สายแลนแบบยางคือมีราคาถูก และความยืดหยุ่นสูง เช่นเดียวกัน เสียงสัญญาณก็จะถูกลดลง ในกรณีที่มีการใช้สายแลนในระยะที่สั้น สายแลนแบบยางถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานทั่วไป

ประเภทของสายแลนแบบคู่เกลียว
สายแลนแบบคู่เกลียว (Twisted Pair) เป็นประเภทที่มีกระแสไฟฟ้าที่ถูกส่งผ่านสายแลนซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยซับซ้อนกรรดิ่งกัน โดยมีดอกไฟสัญญาณอยู่ภายในสาย สายแลนแบบคู่เกลียวจะถูกเชื่อมต่อกับเส้นสัญญาณอื่นในรูปแบบที่เกิดขึ้นเป็นแกนชนิดหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีอินเตอร์เฟรนซี่สัญญาณเข้ามาในสายแลน ประโยชน์ของการใช้สายแลนแบบคู่เกลียวคือมีความเสถียรสูงและมีความสามารถในการส่งสัญญาณยาวได้ โดยผ่านการลดเสียงรบกวนภายนอกได้

ประเภทของสายแลนแบบเกลียวกัน
สายแลนแบบเกลียวกัน (Coaxial Cable) เป็นสายแลนที่มีการนำเสนอในรูปแบบของแกนสัญญาณที่อยู่ภายใน โดยมีฉนวนผิวนอกที่เป็นซ้อนทับกัน ในกรณีที่ไม่ได้มีการติดตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย สายแลนแบบเกลียวกันจะสามารถส่งสัญญาณได้ถึงระยะทางประมาณ 180 เมตร แต่หากมีการติดตั้งตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย สายแลนแบบเกลียวกันสามารถส่งสัญญาณได้ถึงระยะทาง 500 เมตร ประโยชน์ของการใช้สายแลนแบบเกลียวกันคือสามารถส่งสัญญาณข้อมูลระยะไกลได้ และมีความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัว

ประเภทของสายแลนแบบแกนเคเบิล
สายแลนแบบแกนเคเบิล (Fiber Optic Cable) เป็นสายแลนที่ใช้ในการส่งสัญญาณด้วยแพลงค์ที่มีคลื่นแสง สายแลนแบบแกนเคเบิลสามารถส่งสัญญาณได้ระยะไกล และมีความเร็วสูงมาก ประโยชน์ของการใช้สายแลนแบบแกนเคเบิลคือสามารถส่งสัญญาณข้อมูลระยะไกลได้ และสามารถรองรับความเร็วสูงของข้อมูลได้

ประเภทของสายแลนแบบแบตเตอรี่
สายแลนแบบแบตเตอรี่ (Power over Ethernet) คือ สายแลนที่สามารถใช้ในการส่งสัญญาณส่งพลังงานได้ ทำให้ไม่ต้องใช้สายแลนและสายไฟฟ้าคนละเส้นกัน ประโยชน์ของสายแลนแบบแบตเตอรี่คือสามารถส่งสัญญาณทางไฟฟ้าได้ในเวลาเดียวกันทั้งสองแห่ง

ประเภทของสายแลนที่ใช้สำหรับใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ
สายแลนมีหลายประเภทที่ถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สายแลนแกนหลาย (Multicore Cable) ที่ใช้ในระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ตั้งต้นที่สามารถต่อกล่องจ่ายไฟได้หลายตัว หรือสายแลนแบบแกนเดียว (Single Core Cable) ที่ใช้ในการเชื่อมต่อตัวแปลงสัญญาณ

ประเภทของสายแลนแบบแกนหลาย
สายแลนแบบแกนหลาย (Multimode) เป็นสายแลนที่สามารถส่งสัญญาณในรูปแบบของแกนหลายตัว โดยสัญญาณสามารถวิ่งผ่านแกนได้สูงสุด 2 รูปแบบ กับสายแลนแบบแกนเคเบิลที่สามารถส่งสัญญาณแกนได้หลายตัว

ประเภทของสายแลนแบบแกนเดียว
สายแลนแบบแกนเดียว (Single Mode) เป็นสายแลนที่สามารถส่งสัญญาณในรูปแบบของแกนเดียว เนื่องจากสายแลนแบบแกนเดียวทำจากแพลงค์อะคาร์ลิเช่ร์โฟรมเซล ทำให้สามารถส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ระยะไกลกว่าสายแลนแบบอื่น

ประเภทของสายแลนแบบโปรโตคอลแยกย่อย
สายแลนแบบโปรโตคอลแยกย่อย (Subprotocol) เป็นสายแลนที่มีความสามารถในการส่งสัญญาณข้อมูลแบบแยกย่อยกัน โดยสายแลนแบบนี้จะมีความเสถียรสูง และสามารถรองรับการส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ได้

การเข้าหัวสายแลน มีกี่แบบ
การเข้าหัวสายแลนมีหลายแบบตามมาตรฐานของสายแลน หรือแลนการ์ด ที่ต้องการใส่หัว อ่านคู่กันและขั้วเสียบกัน มาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบันในสายแลนแบบปลายเจาะ (Ethernet) คือตามมาตรฐาน T568A และ T568B

เข้าสายแลนแบบ a กับ b ต่างกันยังไง
สายแลนแบบ T568A และ T568B เป็นการมาตรฐานของสายแลน โดยสายแลนแบบ T568A จะมีลำดับข้อต่อดังนี้ ขาสายสีน้ำเงิน (Pin3) ขา

การเข้าหัวสายแลน มีกี่แบบ

ในยุคที่เทคโนโลยีสื่อสารและเน็ตเวิร์คมีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรา การใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ดีและสำคัญมาก หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์เหล่านี้คือ สาย LAN หรือ Local Area Network Cable ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เข้ากับอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค

การเข้าหัวสาย LAN นั้นสามารถทำได้ในหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้อุปกรณ์ไหนร่วมกับสาย LAN ของคุณ ดังนั้นสาย LAN ที่คุณเลือกใช้จึงมีผลต่อความเร็วและคุณภาพของการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณด้วย

กรุณาอ่านต่อเพื่อทำความรู้จักกับการเข้าหัวสาย LAN แบบต่าง ๆ ที่ใช้งานในปัจจุบัน

1. RJ45 Connector
RJ45 Connector เป็นการเข้าหัวสาย LAN ที่คุ้นเคยและใช้งานมากที่สุด สาย CAT5, CAT5e, CAT6, และ CAT7 เป็นตัวอย่างของสาย LAN ที่ใช้ RJ45 Connector กระแสข้อมูลสูงสุดที่สาย LAN แบบนี้สามารถถ่ายโอนได้คือ 1 Gbps (Gigabits per second) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

2. RJ11 Connector
RJ11 Connector เป็นการเข้าหัวสายที่บางครั้งเองจะใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์โทรศัพท์ เช่น เครื่องโทรศัพท์สแตนด์อโลน เครื่องโทรศัพท์สาย PABX หรือเทคโนโลยี VoIP ซึ่งเหมาะสำหรับคำสั่งและการส่งข้อมูลที่สั้น

3. Fiber Optic Connector
Fiber Optic Connector เป็นการเชื่อมต่อแบบใช้แสงในการถ่ายโอนข้อมูล สาย LAN แบบนี้ใช้เส้นใยแก้วหรือใยพลาสติกที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยแสงได้ ซึ่งทำให้ความเร็วและคุณภาพสูงกว่าสาย LAN แบบอื่น ๆ การใช้งานสายแก้วเส้นใยแก้วและเส้นใยพลาสติกขึ้นกับคุณลักษณะและความต้องการของผู้ใช้งาน

4. USB Ethernet Adapter
USB Ethernet Adapter เป็นการใช้สาย LAN ผ่านพอร์ต USB แทนของพอร์ต RJ45 ซึ่งใช้สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีพอร์ต LAN แบบแท้จริง การใช้ USB Ethernet Adapter สามารถเสนอความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ LAN แท้ ๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้าหัวสายแลน

1. สาย LAN แบบไหนที่ดีที่สุด?
คำตอบ: สาย LAN ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณ หากคุณต้องการความเร็วและคุณภาพที่ดี สาย CAT6 หรือ CAT7 จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สาย CAT5e ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

2. การเลือกสาย LAN ขึ้นอยู่กับอะไร?
คำตอบ: การเลือกสาย LAN ขึ้นอยู่กับความต้องการด้านความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล สถานที่ติดตั้ง ระยะทาง และงบประมาณ สาย CAT5e เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป สาย CAT6 และ CAT7 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงกว่า

3. สาย LAN มีอายุการใช้งานเท่าใด?
คำตอบ: สาย LAN ไม่มีอายุการใช้งานที่แน่นอน การรักษาสาย LAN อย่างระมัดระวังและการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้สาย LAN ใช้งานได้ยาวนานขึ้น แต่มีโอกาสที่คุณอาจต้องเปลี่ยนสาย LAN เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ ๆ

4. สาย LAN มีระยะทางในการเชื่อมต่ออย่างไร?
คำตอบ: สาย LAN มีระยะทางในการเชื่อมต่อสามารถกินได้เท่ากับ 90 เมตร สาย Fiber Optic เช่น mode multi เป็นต้นสามารถกินระยะทางได้สูงถึงหลักพันเมตรต่อแนวตรง การใช้งานในระยะยาวนี้อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เช่น repeater หรือ switch เพื่อเสริมสัญญาณเครือข่าย

5. สาย LAN สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ตที่แตกต่างกันได้หรือไม่?
คำตอบ: สาย LAN สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ตที่แตกต่างกันได้ แต่ต้องมีแอดเตอร์หรือแอปพลิเคชันการสื่อสารที่เปลี่ยนสัญญาณและแบบเชื่อมต่อที่เหมาะสม เช่น การเชื่อมต่อสาย LAN ที่มีสาย CAT5e กับพอร์ตที่มีสาย CAT6 นั่นเรียกว่าการเชื่อมต่อ Cross-over

ในสรุป การเข้าหัวสาย LAN มีหลายแบบตามความต้องการและการใช้งานของคุณ และหลักการที่คุณควรพิจารณาในการเลือกสาย LAN คือ ความเร็วและคุณภาพการเชื่อมต่อที่คุณต้องการ นอกจากนี้ควรระมัดระวังในการเชื่อมต่อสาย LAN และต้องรักษาสายให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานระยะยาว

เข้าสายแลนแบบ A กับ B ต่างกันยังไง

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาการเชื่อมต่อเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ผ่านสายแลนเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในงานออฟฟิศหรืองานอื่นๆ การเลือกใช้มาตรฐานสายแลนนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะมีผลต่อการสื่อสารและการทำงานของระบบเครือข่ายในที่สุดท้าย ในบทความนี้เราจะมาสำรวจว่าสายแลนแบบ A และ B ต่างกันยังไง อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างสองแบบนี้และจะควรเลือกใช้แบบไหนในการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

สายแลนแบบ A
สายแลนแบบ A เป็นมาตรฐานเดิมในการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่าย สายแลนแบบ A คือสายแลนแบบ Unshielded Twisted Pair (UTP) ซึ่งเป็นสายแลนที่ไม่มีการป้องกันทางกายภาพจากรังสีและรบกวนภายนอก สายนี้มีการต่อ 8 เส้นหุ้มด้วยแบบ Classic colors ด้วยสีส้มส่วนตัวของสายกลางทุกเส้น ซึ่งทำให้สายแลนแบบ A จัดเป็นสายแลนแบบไม่สามารถกำหนดหรือระบุได้ว่าฝั่งใดเป็นขาส่งของข้อมูลและฝั่งใดเป็นขารับข้อมูล

สายแลนแบบ B
สายแลนแบบ B เป็นมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่าย สายแลนแบบ B เรียกอีกชื่อว่าสายแลนแบบ Shielded Twisted Pair (STP) หรือ Screened Twisted Pair ซึ่งสายแลนแบบนี้ถูกรีดฉนวนเพื่อป้องกันรบกวนจากรังสีและแรงดันไฟฟ้าฝุ่น สายที่ไม่มีการป้องกันฉนวนเส้นชิ้นนี้จะไม่สามารถดำเนินการเชื่อมต่อในแบบ B ได้

ข้อแตกต่างระหว่างสายแลนแบบ A และ B
1. การต่อรางขั้วของสาย
– สายแลนแบบ A มักจะใช้รางขั้วของสายหรือ module สีขาวเส้นและสีส้มเพื่อให้รู้ว่าค่าของขวางเป็นระฆังทบกับสายกลางหรือเปล่า
– สายแลนแบบ B จะใช้สีขาวเส้นและสีน้ำเงินต่อรางขั้วของสาย

2. การเชื่อมต่อ
– สายแลนแบบ A สามารถเชื่อมต่อกับสายแลนแบบ B ได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ระหว่างมาเชื่อมต่อ
– สายแลนแบบ B สามารถเชื่อมต่อกับสายแลนแบบ A ได้ แต่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมรางขั้วเพื่อเปลี่ยนทางข้อความของสายให้แลกเปลี่ยนกันเป็นขาส่งข้อมูลและขารับข้อมูลเช่นเดียวกัน

3. การใช้งานและประสิทธิภาพ
– สายแลนแบบ A เป็นมาตรฐานเก่าและไม่สามารถรองรับความเร็วสูงได้ มักใช้สำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วไม่สูง เช่น การใช้งานด้านออฟฟิศ
– สายแลนแบบ B เป็นมาตรฐานใหม่ที่มีความสามารถในการรองรับความเร็วสูงกว่า สายแลนแบบ A และหนึ่งในข้อดีของสายแลนแบบนี้คือการป้องกันรบกวนได้ดีขึ้น ดังนั้นสายแลนแบบ B เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงและความปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อย

1. สายแลนแบบใดจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือออฟฟิศ?
– สายแลนแบบ A จะเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือออฟฟิศที่ต้องการการสื่อสารแบบพื้นฐาน ไม่ค่อยมีความต้องการใช้งานความเร็วสูง
– สายแลนแบบ B เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงและความปลอดภัย เช่น การใช้งานด้านธุรกิจหรือการสตรีมมิงค์วิดีโอคุณภาพสูง

2. สายแลนแบบใดมีความปลอดภัยสูงกว่า?
– สายแลนแบบ B มีความปลอดภัยสูงกว่าเพราะมีการรีดฉนวนเส้นชิ้นให้กับสายเพื่อเป็นการป้องกันรบกวนจากรังสีและแรงดันไฟฟ้าฝุ่น

3. สายแลนแบบใดมีความเร็วสูงกว่า?
– สายแลนแบบ B มีความเร็วสูงกว่าเนื่องจากสายแลนแบบนี้ถูกรีดฉนวนเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความเร็วในการรับส่งข้อมูล

4. สายแลนแบบ A และ B สามารถใช้งานร่วมกันได้หรือไม่?
– สายแลนแบบ A และ B สามารถใช้งานร่วมกันได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ระหว่างมาเชื่อมต่อ แต่ควรใช้อุปกรณ์ระหว่างที่สามารถเปลี่ยนทางข้อความของสายให้แลกเปลี่ยนกันเป็นขาส่งข้อมูลและขารับข้อมูลเช่นเดียวกัน

เมื่อเรารู้และเข้าใจถึงข้อแตกต่างระหว่างสายแลนแบบ A และ B เราสามารถเลือกใช้สายแลนที่เหมาะสมกับความต้องการของเราได้อย่างมีความแม่นยำและความถูกต้อง อย่างไรก็ตามสมาร์ทแอสิสแตนท์ของ OpenAI สามารถเสนอคำแนะนำเป็นทางเลือกในชุดข้อมูลอ้างอิงนี้เท่านั้น ท่านควรปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นเมื่อใช้ข้อมูลในบทความดังกล่าวและปฏิบัติตามคู่มือนี้ในขอบเขตของวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ที่กำหนดให้และที่ได้อนุญาตภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทาง OpenAI ไม่ได้ให้การสนับสนุน อนุญาต หรือสนับสนุนในกรณีที่ทางเจ้าของฉบับได้ใช้ข้อมูลในปัจจุบันหรือในอนาคตในสถานะต้องการค้นหาทางออกจาก OpenAI

สายแลนมีกี่สี?

สายแลน (Ethernet cable) เป็นสายที่ใช้ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายเพื่อส่งข้อมูล สายแลนหารือกันเป็นหลายแบบที่มีความแตกต่างกันตามมาตรฐานและระบบที่ใช้งาน โดยทั่วไปแล้วสายแลนถูกแบ่งออกเป็นสายแลนแบบเจ้าของต้นทุน (Copper cable) และสายแลนแบบใยแก้วเส้นแบบเดียว (Fiber optic cable)

สำหรับสายแลนแบบเจ้าของต้นทุนหรือ Copper cable สายแลนแบบนี้ถูกใช้งานกันแพร่หลายทั่วโลก และมีความแตกต่างกันตามมาตรฐานที่ใช้งาน สายแลนแบบ Copper จะใช้สัญญาณไฟฟ้าในการส่งข้อมูล สายแลนแบบนี้สามารถแบ่งออกได้ตามความเร็วของการส่งข้อมูล โดยทั่วไปแล้วสายแลนแบบเจ้าของต้นทุนถูกแบ่งได้เป็นสายแบบ Cat 3, Cat 5, Cat 5e, Cat 6, Cat 6a และ Cat 7 โดย Cat 7 เป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงถึง 10 Gigabit ต่อวินาที

สายแลนแบบใยแก้วเส้นแบบเดียวหรือ Fiber optic cable ใช้การส่งข้อมูลทางแสงและใช้อินเตอร์เฟซแบบแสงซีดออก (Single-mode) หรือแสงซีดี (Multimode) สายแลนแบบนี้มีความแพงกว่าและใช้ในระบบเครือข่ายที่ต้องการความเร็วสูงและระยะทางไกล

สายแลนมีกี่สี?

สายแลนแบบ Copper cable แต่ละชนิดจะมีสีต่างกันเพื่อให้ง่ายต่อการจัดกลุ่มและการระบุ สายแลน Cat 5 จะมีสีดำ, สีขาว, สีแดง, สีเขียว, และสีน้ำเงิน ส่วน Cat 5e จะมีสีสำหรับแต่ละมาตรฐานดังนี้ สีเหลือง – สายที่ใช้สำหรับต่อกับโทรศัพท์, สีส้ม – สายที่ใช้สำหรับต่อกับอุปกรณ์เครือข่าย, สีเขียว – สายที่ใช้สำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์, สีน้ำเงิน – สายที่ใช้สำหรับต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์, และสีขาว – สายที่ใช้สำหรับต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ

สำหรับสายแลนแบบ Fiber optic cable มักจะไม่มีสีเนื่องจากไม่จำเป็นต้องกำหนดสีเพื่อการระบุ แต่จะประกอบด้วยรางแก้วใยเดียวหรือไม่มีการประกอบรางและรางมีตัวคางหูสำหรับใส่ตลอดเส้นทั้งสองข้าง

FAQs เกี่ยวกับสายแลน:

คำถาม: สายแลนแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป?

คำตอบ: สำหรับการใช้งานทั่วไป สายแลนแบบ Cat 6a เป็นที่แนะนำมากที่สุด เนื่องจากมีความเร็วสูงถึง 10 Gigabit ต่อวินาทีและเหมาะสำหรับสายที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง

คำถาม: สายแลนแบบใยแก้วเส้นแบบไหนถูกต้องสำหรับเครือข่ายระยะสั้น?

คำตอบ: สายแลนแบบ Multimode คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเครือข่ายระยะสั้น เพราะมีระยะทางการส่งข้อมูลสูงพร้อมทั้งราคาที่ถูกกว่าแบบ Single-mode

คำถาม: สายแลนแบบไหนที่ใช้ในการส่งข้อมูลระยะไกลและมีความเร็วสูง?

คำตอบ: สายแลนแบบ Single-mode Fiber optic cable เป็นที่เหมาะสมสำหรับการส่งข้อมูลระยะไกลและมีความเร็วสูง เช่นการเชื่อมต่อระหว่างอาคารหรือเมือง

คำถาม: สายแลนที่ใช้ต่อกับโทรศัพท์สามารถใช้เครือข่ายได้ไหม?

คำตอบ: สายแลน Cat 5e ที่ใช้สำหรับต่อกับโทรศัพท์สามารถใช้ในระบบเครือข่ายได้เช่นกัน เพียงแต่จะต้องใช้เทคโนโลยีแปลงสัญญาณที่เหมาะสมในขณะนั้น

สรุป

สายแลนมีสีต่างกันไปตามมาตรฐานและระบบที่ใช้งาน สายแลนแบบ Copper cable มีความหลากหลายทั้งแบบ Cat 3, Cat 5, Cat 5e, Cat 6, Cat 6a และ Cat 7 ส่วนสายแลนแบบ Fiber optic cable จะไม่มีสีแต่กลับมีการระบุด้วยรางแก้วใยเดียวหรือรางแบบไม่กำหนดสี การเลือกใช้สายแลนขึ้นอยู่กับความต้องการการใช้งาน เช่น ระยะทางการส่งข้อมูล, ความเร็ว, ราคา ฯลฯ การเลือกใช้สายแลนที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบเครือข่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

มี 36 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สาย แลน มี กี่ ประเภท.