วิธีต่อสายแลน
สายแลน (Ethernet cable) เป็นเครื่องมือที่สำคัญและจำเป็นต้องมีในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์อีกหนึ่งชนิดที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีต่อสายแลนและขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อให้การเชื่อมต่อสำเร็จและมีประสิทธิภาพที่สูงที่สุด
1. การเชื่อมต่อสายแลนด้วยปลั๊ก RJ-45
– เสียบปลั๊ก RJ-45 ที่ปลายสายแลนที่เราต้องการเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต (port) ของอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ สวิตช์ (switch) หรือเราเตอร์ (router)
– ให้มั่นใจว่าเสียง “คลิก” ซึ่งแสดงถึงการเชื่อมต่อที่แน่นอน ถ้าหากไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวให้เสียบปลั๊กใหม่อีกครั้ง
– เพื่อให้ทราบว่าการเชื่อมต่อสายแลนเข้ากับอุปกรณ์สามารถทำงานได้และมีความเสถียรสูง ควรตรวจสอบสัญญาณไฟเลือดสีในปลั๊ก เมื่อสัญญาณไฟเลือดสีหมด หรือไม่มีแบบใดบ้างที่เป็นไปได้ จะต้องทำการตรวจเช็ครายละเอียดการเชื่อมต่อสายแลนใหม่
2. เครื่องมือที่จำเป็นในการต่อสายแลน
– สายแลนแบบ Direct (Straight-through cable): สายแลนประเภทนี้สามารถใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์กับสวิตช์ (switch) หรือเราเตอร์ (router) ได้โดยตรง สายแลนที่มีการเรียงตัวของสีไฟเลือดในทั้งสองด้านเป็นแบบเดียวกันในลำดับ เช่น สีขาว-สีเทา, สีส้ม-สีส้มดำ
– สายแลนแบบ Crossover: สายแลนประเภทนี้ใช้เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์หรือเราเตอร์กับเราเตอร์ รังสีในสายแลนทั้งสองด้านจะเดียวกันในลำดับ แต่เลขของสีจะต่างกัน เช่น สีขาว-สีส้ม, สีส้ม-สีขาว
3. วิธีตรวจสอบความถูกต้องของการเชื่อมต่อสายแลน
– ตรวจสอบที่พอร์ต (port) ที่ต่อสายแลนอยู่ว่าสายแลนที่ต่อเข้าไปชนิดใด ถ้าเป็นสายแลนแบบ Direct ให้ใช้สายแลนประเภท Direct ในการต่อ และถ้าเป็นสายแลนแบบ Crossover ให้ใช้สายแลนประเภท Crossover นี้ในการต่อ
– เมื่อทำการเสียบปลั๊ก RJ-45 เข้ากับพอร์ตแล้ว ให้ตรวจสอบสัญญาณไฟเลือดสีฟ้าซึ่งบอกถึงความเสถียรของการเชื่อมต่อ ถ้าเสียงไฟเลือดสีฟ้ากระพือปลายตัวปลั๊ก แสดงถึงการเชื่อมต่อที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
4. การติดตั้งไดรเวอร์และการตั้งค่าเครือข่ายสำหรับการใช้งานร่วมกัน
– หากต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายร่วมกับชุดคอมพิวเตอร์ เราต้องติดตั้งไดรเวอร์ (driver) เพื่อเป็นตัวกำหนดการทำงานของอุปกรณ์ ในการติดตั้งคือให้ใช้แผ่นดรายเวอร์ที่มาพร้อมกับชุดคอมพิวเตอร์หรือไปดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ของผู้ผลิต จากนั้นก็ทำการตั้งค่าเครือข่ายตามขั้นตอนที่มีให้ในคู่มือการติดตั้งไดรเวอร์
5. วิธีตรวจสอบการเชื่อมต่อสายแลนแบบ Ethernet
– เปิด Command Prompt คีย์ว่า “ipconfig” เพื่อดูข้อมูล IP Address และข้อมูลระบบเครือข่ายอื่นๆ
– ที่ Command Prompt คีย์ว่า “ping” ตามด้วยที่อยู่ IP Address ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย เช่น “ping 192.168.1.1” ถ้าเราได้รับการตอบกลับกลับมาจากอุปกรณ์นั้นแสดงว่าการเชื่อมต่อสำเร็จ และ IP Address มีการทำงานได้ถูกต้อง
– ตรวจสอบความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์โดยใช้คำสั่ง “tracert” ตามด้วยที่อยู่ IP Address ของอุปกรณ์ที่เราต้องการตรวจสอบ ถ้าความเร็วโดยประมาณมีค่าต้นทางน้อยลงไปยังปลายทางแสดงถึงการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ
6. การสร้างเน็ตเวิร์คด้วยการต่อสายแลน
– มีหลายวิธีในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้สายแลน ตัวอย่างเช่น การสร้างเครือข่ายแบบรัศมี คือเราอยู่ด้านกลางของเครือข่ายและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ หรือการสร้างเครือข่ายแบบห่อสายแลน (daisy chain) คือการเชื่อมต่อสายแลนจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์ถัดไปเรื่อยๆ
– ในกรณีที่ต้องการตั้งค่าเครือข่ายกันเอง ให้กำหนดที่อยู่ IP Address เพื่อตั้งค่าอุปกรณ์ในเครือข่ายให้ถูกต้อง และเปิดใช้งานตัวเชื่อมต่อเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายได้
7. วิธีป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการเชื่อมต่อสายแลน
– ระมัดระวังไม่ให้สายแลนถูกกัดกร่อนหรือบิดเบี้ยวเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เสียง “คลิก” อาจไม่เป็นปกติ และทำให้การเชื่อมต่อมีปัญหา
– คลานสายแลนอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการถูกดึงให้ขาดจากพอร์ตอุปกรณ์ ซึ่งอาจทำให้การเชื่อมต่อสัญญาณเสีย
– สายแลนควรวางให้อยู่ห่างจากแหล่งสัญญาณอินเตอร์เฟซ หรือเสียบกับสายไฟหรืออุปกรณ์อื่นที่อาจมีสัญญาณรบกวน เนื่องจากอาจทำให้สัญญาณเสียหาย
– เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อไม่เสถียร ควรตรวจสอบสัญญาณไฟเลือดว่ามีการติดต่ออย่างแน่นอนหรือไม่ หากพบว่าปลั๊ก RJ-45 ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ให้รับประกันว่าปลั๊กถูกเสียบสายแลนพิกเข้าถึงสัญญาณไฟเลือดตามที่กำหนด
FAQs
Q1: สายแลนแบบ Crossover และสายแลนแบบ Direct ต่างกันอย่างไร?
A1: สายแลนแบบ Crossover และสายแลนแบบ Direct ต่างกันที่การเรียงตัวของสีไฟเลือด สายแลนแบบ Direct เมื่อเรียงตัวแล้วจะมีลำดับสีเท่ากับกันทั้งสองด้าน เช่น สีขาว-สีเทา, สีส้ม-สีส้มดำ ส่วนสายแลนแบบ Crossover จะมีลำดับสีตรงกันด้านหนึ่งและตรงข้ามด้านที่เหลือ เช่น สีขาว-สีส้ม, สีส้ม-สีขาว
Q2: สายแลนที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์แบบเพื่อนกันจะต่างจากสายแลนที่ใช้กับอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ อย่างไร?
A2: สายแลนที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์แบบเพื่อนกันจะมีการเรียงตัวของสีไฟเลือดแบบ Direct ในขณะที่สายแลนที่ใช้กับอุปกรณ์เครือ
การเข้าหัวสายแลน Rj45ด้วยตัวเองแบบง่ายๆภายใน3นาที
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: วิธีต่อสายแลน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธีต่อสายแลน

หมวดหมู่: Top 67 วิธีต่อสายแลน
ต่อสายแลนทำยังไง
ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สำคัญและไม่อาจหลีกเลี่ยง เราต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของเรากับอินเทอร์เน็ตให้มีความเร็วและเสถียรภาพสูง และต่อสายแลนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเชื่อมต่อเครือข่ายชนิดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อทางบ้านหรือในสถานที่ทำงาน ต่อสายแลนถือเป็นวิธีที่มีความเป็นมาตรฐานสูง ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและความเสถียรในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าจะต่อสายแลนใช้วิธีไหน และเราจะแสดงวิธีง่ายๆ ในการต่อสายแลนในบทความนี้ พร้อมถาม-ตอบคำถามที่พบได้บ่อยๆ เกี่ยวกับการต่อสายแลน
วิธีต่อสายแลนอย่างง่าย
วิธีที่ 1: เชื่อมต่อสายแลนด้วยเครื่องมือ
1. ตรวจสอบอุปกรณ์: ตรวจสอบว่าคุณมีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการต่อสายแลนครบถ้วน ประกอบไปด้วยสายแลนและแปลงสัญญาณ Ethernet ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณ เช่น คอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อป
2. ต่อสายแลน: เสียบปลั๊กสายแลนให้แนบเข้ากับช่อง Ethernet ของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายแลนได้ถูกต่อสาย Ethernet อย่างแน่นอน
3. ต้องการแปลงสัญญาณ: หากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อไม่มีช่อง Ethernet คุณจะต้องใช้แปลงสัญญาณ Ethernet เพื่อสร้างตัวต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และสายแลน คุณสามารถซื้อแปลงสัญญาณพร้อมใช้งานจากร้านค้าอุปกรณ์เทคโนโลยีหรือหากคุณชำนาญการในการต่อสายอาจสร้างแปลงสัญญาณด้วยตนเองก็ได้
4. ทดสอบการเชื่อมต่อ: เมื่อคุณต่อสายแลนแล้ว คุณควรทดสอบการเชื่อมต่อโดยใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบว่าเครือข่ายทำงานอย่างถูกต้อง
วิธีที่ 2: ต่อสายแลนด้วยการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ใช้เครื่องมือ
1. ตรวจสอบความเร็วของสายแลน: ตรวจสอบระบบของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อว่ารองรับความเร็วสูงสุดของสายแลนที่คุณมีอยู่
2. เชื่อมต่อสายแลน: เสียบปลั๊กสายแลนในช่อง Ethernet เลือกหรือเลือกตามความเหมาะสม อย่าลืมใช้สายแลนที่มีความยาวพอเหมาะกับการติดตั้งและอุปกรณ์ที่คุณมี
3. ทดสอบการเชื่อมต่อ: เมื่อคุณต่อสายแลนแล้ว คุณควรทดสอบการเชื่อมต่อโดยใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบว่าเครือข่ายทำงานอย่างถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการต่อสายแลน
คำถามที่ 1: สายแลนที่ใช้ต่อสายแลนสามารถมีความยาวเท่าไหร่?
คำตอบ: สายแลนเช่นกันกับเครือข่ายอื่นๆ สามารถมีความยาวได้มากถึง 100 เมตร ในกรณีที่คุณต้องการความยาวที่ยาวกว่านี้ คุณอาจต้องใช้เครื่องขยายสัญญาณ (repeater) เพื่อช่วยเสริมสัญญาณให้เหมาะกับระยะทางที่คุณต้องการ
คำถามที่ 2: อะไรคือแปลงสัญญาณ (Ethernet converter) และทำไมถึงต้องใช้?
คำตอบ: แปลงสัญญาณหรือ Ethernet converter เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงสัญญาณระหว่างสายแลนที่ใช้สื่อสารโดยผ่านสัญญาณแอนะล็อก (analog signal) และสัญญาณดิจิตอล (digital signal) โดยทั่วไปแล้ว แปลงสัญญาณที่ใช้กับสายแลนจะถูกนำเข้าไปใช้กับอุปกรณ์พิเศษที่ไม่มีช่องแจ้งสัญญาณแลน
คำถามที่ 3: ทำไมไม่สามารถใช้ Wi-Fi แทนการต่อสายแลนได้?
คำตอบ: ในบางกรณี Wi-Fi อาจไม่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากสัญญาณ Wi-Fi อาจถูกกีดกันหรืออัตราการเชื่อมต่ออาจช้าลง เช่นเครือข่ายที่คนใช้งานมากพร้อมกัน แต่การใช้สายแลนจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวลง และในบางกรณีนั้น Wi-Fi อาจไม่สามารถให้ความเร็วและความเสถียรเช่นเดียวกับการต่อสายแลน
ด้วยเทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อต่างๆ เราสามารถต่อสายแลนได้อย่างง่ายดาย กับวิธีง่ายๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น และหากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการต่อสายแลน ให้กล้ามาถามในส่วนคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำเพื่อการต่อสายแลนที่ราบรื่นและสะดวกสบาย
การต่อสายแลนมีทั้งหมด กี่แบบ
สายแลน (Ethernet cable) เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรหรือที่บ้าน เป็นตัวกลางที่ช่วยลิงก์ระหว่างอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ เพื่อเปิดทางให้ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Ether” ที่หมายถึงทองหล่อ (Physical layer) และ “Net” ที่หมายถึงคอมพิวเตอร์เครือข่าย (Network) การต่อสายแลนนั้นมีทั้งหมดกี่แบบ? ในบทความนี้จะทำการเปลี่ยนแปลงแบบต่างๆ ของสายแลนและอธิบายลักษณะและการใช้งานของแต่ละแบบอย่างละเอียด เพื่อให้ท่านทราบถึงข้อแตกต่างและความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละแบบ\
1. สายแลนแบบ Category 5 (Cat5) – เป็นสายแลนแบบเบอร์ต่ำที่สุดที่ใช้ต่อในปัจจุบัน สายแลนแบบ Cat5 มีฝังเท่ากับ 100Base-TX ซึ่งหมายความว่าความเร็วสูงสุดของสายแลนนี้คือ 100 Mbps สายแลนแบบ Cat5 นี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานและราคาถูกเป็นเหตุที่ทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่จุดเด่นคือความเห็นด้วยว่าเสียงและสัญญาณจะหลุดมากพอสมควรหากใช้สายแลนแบบนี้ในระยะทางยาว และไม่เหมาะกับการรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่อย่าง HD video streaming หรือการเล่นเกมออนไลน์ที่มีความเร็วสูง
2. สายแลนแบบ Category 5e (Cat5e) – ต่อมาเป็นสายแลนแบบ Cat5e ซึ่งเป็นการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของสายแลนแบบ Cat5 ให้มีความเห็นดีขึ้น สายแลนแบบ Cat5e สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงสุด 1000 Mbps โดยรองรับเทคโนโลยี Gigabit Ethernet สายแลนแบบนี้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง และราคาไม่แพงมาก สายแลนแบบ Cat5e นั้นรองรับกำลังการทำงานสูงกว่า Cat5 และเหมาะสำหรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และความเร็วสูง
3. สายแลนแบบ Category 6 (Cat6) – สายแลนแบบ Cat6 เป็นการพัฒนาเพื่อรองรับข้อมูลกว้างขวางมากขึ้น สายแลนแบบนี้สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 10 Gbps ได้ สายแลนแบบ Cat6 นั้นมีการออกแบบให้มีการแยกสายไฟฟ้าขาเวียนกันเพื่อลดการรบกวนที่เกิดขึ้นระหว่างสายข้อมูล และมีความสามารถในการยืดหยุ่นดีกว่า Cat5 และ Cat5e ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และความเร็วสูง
4. สายแลนแบบ Category 6a (Cat6a) – สายแลนแบบ Cat6a พูดถึงความเร็วที่สูงขึ้นโดยสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 10 Gbps ในระยะทางถึง 100 เมตรได้ สายแลนแบบ Cat6a นี้มีการออกแบบให้มีเกราะที่ด้านในเพิ่มขึ้นเพื่อลดการรบกวนจากความถี่สูงเมื่อส่งข้อมูล ทำให้สายแลนสามารถใช้งานในระยะทางที่ยาวได้โดยไม่เสียความเร็ว และเหมาะสำหรับสายแลนที่ติดตั้งในที่ต่างๆ เช่น อาคารสูงหรือโรงงาน
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. สายแลนแบบ Cat5e และ Cat6 ต่างกันอย่างไร?
สายแลนแบบ Cat5e สามารถรองรับความเร็วสูงสุด 1000 Mbps ในขณะที่สายแลนแบบ Cat6 สามารถรองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps โดยลักษณะของ Cat6 มีเกลียวเป็นตัวอักษร “V” ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเช่นการส่งข้อมูลในขนาดใหญ่
2. สายแลนแบบ Cat6 สามารถใช้แทนสายแลนแบบ Cat5e ได้หรือไม่?
ใช่ได้ สายแลนแบบ Cat6 สามารถใช้แทนสายแลนแบบ Cat5e ได้เนื่องจากทั้งสองแบบสามารถต่อกับเสาอากาศและปลั๊กไฟเดียวกัน อย่างไรก็ตามสายแลนแบบ Cat6 จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการรองรับความเร็วสูงเมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Gigabit Ethernet
3. สายแลนแบบ Cat6a และ Cat6 คือสายแลนเดียวกันหรือไม่?
ไม่ใช่สายแลนเดียวกัน สายแลนแบบ Cat6a และ Cat6 มีการออกแบบหรือผลิตในวิธีที่แตกต่างกัน สายแลนแบบ Cat6a มีเกราะที่ด้านในมากขึ้นเพื่อลดการรบกวนจากความถี่สูงและสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 10 Gbps ในระยะทางได้ถึง 100 เมตร ในขณะที่ Cat6 สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 10 Gbps ได้แต่ระยะทางสั้นกว่า Cat6a อยู่ที่ 55 เมตร
ดูเพิ่มเติมที่นี่: shopacckhuyenmai.com
มี 16 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธีต่อสายแลน.


































![รีวิวใช้สาย LAN แทนต่อ WIFI เน็ตเร็วขึ้นไหมมาดู • [ITUBB] Blog รีวิวใช้สาย Lan แทนต่อ Wifi เน็ตเร็วขึ้นไหมมาดู • [Itubb] Blog](https://i0.wp.com/www.itubb.net/wp-content/uploads/2021/03/LAN_Cable_VS_Wifi_Speed_compare01.jpg?resize=768%2C1024&ssl=1)












ลิงค์บทความ: วิธีต่อสายแลน.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ วิธีต่อสายแลน.
- การต่อสายแลน LAN วิธีการต่อสายแลนทำอย่างไร ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง
- วิธีการต่อสายแลน – Mindphp
- การต่ออุปกรณ์ด้วยสาย LAN,สายตรง,สายครอส
- ขอวิธีต่อสายแลนเข้าคอมพิวเตอร์ – Pantip
- วิธีการเข้าหัวสายแลน Cat6 – Fiber Thai
- วิธีการเข้าหัวสายแลน ( RJ-45 ) – network – Google Sites
- วิธีเข้าหัวแลน (lan) RJ45 Cat5 และ Cat6 – ซ่อม คอม นอก สถาน ที่
- การเชื่อมต่อแบบใช้สาย (พร้อมสาย LAN) | i-Manual – Sony Corporation
- การต่ออุปกรณ์ด้วยสาย LAN,สายตรง,สายครอส
- ไอทีประจำบ้าน – ซ่อมสายแลนขาด ต่อสายแลน… | Facebook
- การต่อสายแลนแบบตรง – YouTube
ดูเพิ่มเติม: blog https://shopacckhuyenmai.com/category/middle-east