วิธีทํา Responsive Web
การออกแบบเว็บไซต์ให้เป็น responsive web design เป็นการออกแบบเว็บไซต์ที่ปรับตัวให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอและอุปกรณ์ที่มีการเข้าถึงเว็บไซต์ เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, มือถือ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาและใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ด้วยวิธีการใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้
1. สร้างความเข้าใจในแนวคิดของ Responsive Web Design:
แนวคิดของ responsive web design คือการออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถปรับตัวเป็นขนาดที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับหน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เข้าถึงเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์การเรียกดูเว็บไซต์ที่ดี เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเลื่อนหน้าจอซ้ายหรือขวาหรือซูมในการเรียกดูข้อมูล
2. วิธีการใช้ Media Queries เพื่อปรับแต่งรูปแบบหน้าเว็บไซต์:
Media queries เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น ใส่เงื่อนไขใน CSS เพื่อกำหนดความกว้างหรือความสูงของเนื้อหาที่แสดงบนหน้าจอ
3. การใช้งาน Grid Systems เพื่อสร้างเค้าโครงหน้าเว็บที่เปลี่ยนไปตามขนาดหน้าจอ:
Grid systems เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสร้างเค้าโครงหน้าเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน โดยใช้ค่าความกว้างแบบร้อยละหรือสัดส่วน เพื่อให้เป็นรูปแบบที่มีการแบ่งส่วนเนื้อหาตามขนาดของหน้าจอ
4. การปรับแต่งรูปแบบ Font และ Typography เพื่อให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์การเรียกดูเว็บที่ดี:
การเลือกและปรับแต่งรูปแบบ Font และ Typography เป็นสิ่งที่สำคัญในการออกแบบ responsive web design เนื่องจากการเลือกใช้สไตล์และขนาดตัวอักษรที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านเนื้อหาได้ง่ายและทันท่วงที
5. การเพิ่มความเร็วในการโหลดข้อมูลด้วยการใช้งาน Lazy Loading:
การใช้งานเทคนิค Lazy Loading ช่วยลดเวลาในการโหลดข้อมูลด้วยการโหลดเนื้อหาแบบลำดับ โดยเริ่มโหลดเนื้อหาหรือรูปภาพเมื่อผู้ใช้งานเลื่อนลงมาถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง
6. การปรับแต่ง Layout สำหรับตั้งค่าการแสดงผลที่ดีกับอุปกรณ์แตกต่าง:
การปรับแต่ง Layout เป็นการปรับตัวของหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับหน้าจอและอุปกรณ์ที่ใช้งาน โดยตั้งค่าเพื่อให้เนื้อหาแสดงผลได้ถูกต้องและไม่เกิดปัญหาเช่น ข้อความหรือภาพที่ตัดต่อกัน
7. การทดสอบและปรับปรุงเว็บไซต์ Responsive เพื่อให้ได้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ดีที่สุด:
การทดสอบเว็บไซต์เพื่อปรับปรุงความ responsive สามารถทำได้โดยการใช้โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ตรวจสอบรูปแบบการกำหนดลักษณะหน้าจอ ในกรณีที่พบปัญหาหรือข้อบกพร่อง เราสามารถแก้ไขได้ตามที่จำเป็น
โค้ด Responsive HTML:
“`html
“`
Responsive Web Design ตัวอย่าง:
เพื่อให้เข้าใจแนวคิดของ responsive web design จะดึงตัวอย่างเว็บไซต์ https://www.example.com มาใช้เป็นตัวอย่าง ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, มือถือ จะสามารถเลือกแสดงเนื้อหาและรูปแบบที่เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้นๆ ได้
ขนาดหน้าจอ responsive:
Responsive web design สามารถปรับตัวได้กับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าแท็บเล็ตก็จะสามารถปรับเปลี่ยนและแสดงเนื้อหาได้แบบที่เหมาะสมกับแต่ละขนาด
Responsive web design CSS:
CSS (Cascading Style Sheets) เป็นภาษาที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบและรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ เมื่อเราใช้ CSS ใน responsive web design จะทำการกำหนดคุณสมบัติและฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นเหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน
โปรแกรมสร้างเว็บ responsive:
มีโปรแกรมหลายรูปแบบที่ใช้สร้างเว็บไซต์ responsive เช่น Bootstrap, Foundation, Bulma, Materialize เป็นต้น โดยมีรูปแบบการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามความต้องการส่วนบุคคล
ภาษาโปรแกรมใดบ้างเป็นพื้นฐานในการทำ responsive web design:
ภาษาโปรแกรมที่เป็นพื้นฐานในการสร้าง responsive web design มีหลายภาษา เช่น HTML, CSS, JavaScript เป็นต้น แต่ในการสร้าง responsive web design ตัวอย่างข้างต้นใช้ HTML และ CSS เล่านี้
CSS responsive media:
สำหรับ responsive web design จะใช้เทคนิคที่ชื่อว่า media queries เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเนื้อหาให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ เช่น หากอุปกรณ์มีขนาดหน้าจอกว้างเกินกว่าที่เรากำหนด จะสามารถปรับแปลงเนื้อหาให้มีความกว้างที่เหมาะสม ได้ตามต้องการ
Responsive web คืออะไรวิธีทำ responsive web:
Responsive web คือการออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถปรับตัวเองให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดูเนื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย วิธีที่เราจะสร้าง responsive web คือ การใช้เทคนิคต่างๆ เช่น Media Queries, Grid Systems, การปรับแต่งรูปแบบ Font และ Typography, เพื่อให้เว็บไซต์มีประสบการณ์การเรียกดูที่ดี
FAQs:
1. Responsive web design คืออะไร?
Responsive web design คือการออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถปรับตัวเองให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดูเนื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย
Ep.26 What’S New – ทำ Responsive Web ง่ายขึ้นด้วย Responsively !!
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: วิธีทํา responsive web โค้ด Responsive HTML, Responsive Web Design ตัวอย่าง, ขนาดหน้าจอ responsive, Responsive web design CSS, โปรแกรมสร้างเว็บ responsive, ภาษาโปรแกรมใดบ้างเป็นพื้นฐานในการทำ responsive web design, CSS responsive media, responsive web คืออะไร
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธีทํา responsive web

หมวดหมู่: Top 82 วิธีทํา Responsive Web
Responsive Web Design ใช้ภาษาอะไร
ในช่วงสมัยนี้ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างแสงสว่าง เว็บไซต์มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่นการเรียกดูข้อมูลในการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือการท่องเว็บสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นต้น การออกแบบเว็บไซต์ต้องได้เสถียรจากความหลากหลายของอุปกรณ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ เช่น คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานผ่านจอภาพให้แสดงผลที่กว้าง ในขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมีขนาดจอขนาดเล็กกว่า
Responsive Web Design (RWD) เป็นเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพื่อให้เว็บไซต์สามารถปรับขนาดและรูปแบบการแสดงผลได้อย่างถูกต้องตามขนาดของอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องแท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันออกไป การใช้ RWD ช่วยให้ผู้ออกแบบไม่จำเป็นต้องพัฒนาหลายเวอร์ชั่นของเว็บไซต์สำหรับแต่ละอุปกรณ์ และยิ่งทำให้ผู้ใช้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์ของ RWD เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการกระบวนการใช้งานเว็บไซต์ในเครื่องมือที่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูอินเทอร์เน็ตในขณะที่เดินทาง หรือแม้แต่ปลายทางของการเรียนรู้และการท่องเว็บ การออกแบบด้วย RWD ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาและฟีเจอร์ของเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
การออกแบบด้วย RWD ทำงานอย่างไร?
การออกแบบด้วย RWD อาศัยคุณสมบัติของ CSS (Cascading Style Sheets) เช่น Media Queries เพื่อปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้ ซึ่งจำเป็นต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละอุปกรณ์
โดยตัวอย่างของคุณสมบัติ Media Queries คือการตรวจสอบความกว้างของหน้าจอ เพื่อส่ง CSS ที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น
“`
/* CSS for desktop */
@media screen and (min-width: 1024px) {
.container {
width: 960px;
}
}
/* CSS for tablet */
@media screen and (min-width: 768px) {
.container {
width: 720px;
}
}
/* CSS for mobile */
@media screen and (min-width: 320px) {
.container {
width: 300px;
}
}
“`
ในตัวอย่างข้างต้น เรากำหนดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้มีความกว้างไม่น้อยกว่า 1024px และกำหนดให้มีคลาส ‘.container’ มีความกว้าง 960px เป็นต้น เมื่อหน้าจอเป็นแท็บเล็ตความกว้างไม่น้อยกว่า 768px เราก็จะเปลี่ยนความกว้างเป็น 720px และเมื่ออุปกรณ์เป็นสมาร์ทโฟนความกว้างไม่น้อยกว่า 320px เราก็จะกำหนดความกว้างเป็น 300px
และที่สำคัญ การแสดงผลที่ได้นั้นไม่ได้เป็นแค่แค่การปรับขนาดเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมเรื่องการเรียงลำดับข้อมูล การปรับขนาดของสื่อต่าง ๆ อย่างรูปภาพและวิดีโอ และแสดงผลข้อความด้วยความเข้ากันได้ทั้งด้านเนื้อหาและส่วนของการนำทาง
FAQs คำถามที่พบบ่อย
1. Responsive Web Design (RWD) คืออะไร?
– Responsive Web Design (RWD) คือเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถปรับขนาดและรูปแบบการแสดงผลได้ตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้ เพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับแต่ละอุปกรณ์
2. RWD มีประโยชน์อย่างไร?
– การออกแบบด้วย RWD ช่วยลดความยุ่งเหยิงในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ทำให้เราสามารถพัฒนาเว็บไซต์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งจะสร้างประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว นอกจากนี้ระบบ RWD ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีกับผู้ใช้งาน
3. หากเว็บไซต์ไม่ใช่ RWD ผลกระทบอย่างไร?
– เว็บไซต์ที่ไม่ใช้ RWD จะไม่สามารถปรับขนาดและแสดงผลได้อย่างถูกต้องกับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตอาจจะแสดงเนื้อหาที่ยุ่งเหยิงหรือยากต่อการอ่าน ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือบริการได้อย่างเหมาะสม
4. อะไรคือเทคนิคอื่น ๆ ที่ใช้สร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์แบบเต็มรูปแบบบนอุปกรณ์เคลื่อนที่?
– นอกจาก RWD แล้วยังมีเทคนิคอื่น ๆ เช่น Adaptive Web Design (AWD) ที่ใช้เทคนิคแตกต่างเพื่อปรับขนาดและรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ แต่ในแบบ AWD จะต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานเปิดด้วย เพื่อเลือกใช้รูปแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสมมากที่สุด
ในที่สุด Responsive Web Design (RWD) ได้รับความนิยมในกระแสของการออกแบบเว็บไซต์ และการพัฒนาเว็บไซต์ โดยที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาและบริการของเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือนักพัฒนา เราขอเสนอ RWD เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาเพื่อรองรับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานของคุณ
ขนาดการแสดงผลเว็บไซต์ในอุปกรณ์ใด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
การแสดงผลเว็บไซต์ให้กับอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ตจะกลายเป็นที่สำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการใช้งานอุปกรณ์พกพาเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เว็บไซต์ต้องถูกออกแบบโดยให้สอดคล้องกับทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา เพื่อให้ข้อมูลและประสบการณ์ของผู้ใช้งานคงที่ไม่ว่าจะดูผ่านอุปกรณ์ใดจะมีขนาดใหญ่ที่สุด
เว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อพูดถึงการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาคืออุปกรณ์แท็บเล็ต โดยทั่วไปแล้วแท็บเล็ตจะมีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ซึ่งทำให้ขนาดการแสดงผลเว็บไซต์สามารถกว้างและยาวขึ้นเพื่อรองรับข้อมูลอย่างครบถ้วนกว่าที่บนสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่า
เมื่อออกแบบเว็บไซต์สำหรับแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เช่น การใช้พื้นที่หน้าจอให้เต็มที่ เว็บไซต์ควรมีการใช้งานในแนวนอนเท่านั้นโดยปกติแท็บเล็ตจะการกระจายเนื้อหาและข้อมูลให้เสาะแนวตั้ง การใช้พื้นที่ให้ครบถ้วนและมีแสดงผลข้อมูลอย่างชัดเจน โดยบรรจุข้อมูลต่างๆเช่นข้อความ รูปภาพ และแท็กเมืองให้ตรงกลางของหน้าจอเพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในทุกมุมมอง
การแสดงผลเว็บไซต์ในอุปกรณ์แท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดยังต้องคำนึงถึงการใช้พื้นที่ระหว่างรูปภาพและข้อความ เพื่อให้อ่านและดูได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ควรใช้ข้อความแสดงผลใหญ่พอที่จะอ่านได้อย่างง่าย และควรเลือกรูปภาพที่มีขนาดไม่เกินกรอบของหน้าจอเพื่อให้ไม่เกิดการวิ่งข้างหลังหน้าจอ
หากเกิดความจำเป็นที่จะแสดงข้อมูลให้กับผู้ใช้งานที่ใช้เว็บไซต์บนแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ควรเลือกเมนูที่สะดวกและเข้าใจง่ายในการนำทางเว็บไซต์ และกรองหรือจัดกลุ่มข้อมูลให้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว เช่น ใช้การแยกไฟล์ออกเป็นหมวดหมู่ การสร้างกรอบหรือโครงสร้างเว็บไซต์ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งควรถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ในรูปแบบของวิดีโอสอนการใช้งานหรือการสร้างคู่มือการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลสำคัญรายละเอียด
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่ 1: ทำไมการแสดงผลเว็บไซต์ในอุปกรณ์แท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดถือว่าสำคัญ?
คำตอบ: การแสดงผลเว็บไซต์ให้กับแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสำคัญเพราะผู้ใช้งานเราต้องการประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ที่ดีทั้งในเรื่องของการแสดงผลข้อมูลอย่างชัดเจนและรวดเร็ว การใช้พื้นที่หน้าจอที่กว้างของแท็บเล็ตจะช่วยให้สามารถแสดงข้อมูลที่มากมายได้อย่างเข้าถึงง่ายและไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยครั้ง
คำถามที่ 2: จะต้องออกแบบเว็บไซต์อย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด?
คำตอบ: เมื่อออกแบบเว็บไซต์สำหรับแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ ควรให้คำนึงถึงการใช้พื้นที่หน้าจอให้เต็มที่และสอดคล้องกับอุปกรณ์ และหากเกิดความจำเป็นต้องแสดงข้อมูลในหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ควรจัดกลุ่มหรือกรองข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งควรใช้ข้อความแสดงผลใหญ่พอที่จะอ่านได้อย่างง่ายและเลือกรูปภาพที่ไม่เกินกรอบของหน้าจอเพื่อไม่ทำให้ข้อมูลหล่นโลก
คำถามที่ 3: มีเกณฑ์อื่นที่ควรพิจารณาเมื่อออกแบบเว็บไซต์สำหรับแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดหรือไม่?
คำตอบ: เนื่องจากการแสดงผลเว็บไซต์ในแท็บเล็ใหญ่ที่สุดมีความสำคัญ ควรใส่ใจในเรื่องของการจัดเรียงเมนูในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำทางในเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ควรออกแบบกรอบหรือโครงสร้างที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มความเข้าใจและความสะดวกในการใช้งาน เช่นการแยกไฟล์ออกเป็นหมวดหมู่ ในบางกรณีมองเห็นความจำเป็นแล้วสามารถถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ผ่านวิดีโอที่สอนการใช้งานหรือการสร้างคู่มือการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลรายละเอียดอย่างชัดเจน
ดูเพิ่มเติมที่นี่: shopacckhuyenmai.com
โค้ด Responsive Html
เว็บไซต์ที่มีการออกแบบและพัฒนาโดยใช้ HTML ในปัจจุบันจะต้องสามารถปรับตัวเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, หรือสมาร์ทโฟน การที่เว็บไซต์สามารถปรับเปลี่ยนขนาดและแสดงผลอย่างถูกต้องบนทุกอุปกรณ์ทำให้ผู้เข้าชมสามารถมีประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โค้ด Responsive HTML เริ่มกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์เชิงพื้นที่และตอบสนองถึงความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
รูปแบบ Responsive HTML คืออะไร?
Responsive HTML เป็นการผสมผสานระหว่างภาษา HTML (HyperText Markup Language) และ CSS (Cascading Style Sheets) เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ตอบสนองและปรับขนาดแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนหลายอุปกรณ์ หากเอกสาร HTML เป็นโครงสร้างของเว็บไซต์มาตรฐาน แล้ว CSS จะใช้ในการกำหนดรูปแบบเส้นทางการแสดงผลและสมาชิกต่าง ๆ ในเว็บไซต์ รวมถึงการบรรจุเครื่องหมายเพื่อให้สามารถพิจารณาโครงสร้างทางด้านประสาทให้รู้ได้ เมื่อระบบรับรู้ขนาดหน้าจอ หรืออุปกรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่ รูปแบบ Responsive HTML ก็จะแสดงผลโดยปรับตัวเพื่อให้แสดงผลได้อย่างถูกต้อง หรือมีการไปตรงกับการแสดงผลบนอุปกรณ์แตกต่าง ๆ
ส่วนประกอบหลักของ Responsive HTML
การพัฒนาโค้ด Responsive HTML นั้นประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 4 ส่วนคือ:
1. Media Query: เป็นเทคนิคของ CSS ที่ใช้ในการจัดการการแสดงผลของส่วนต่าง ๆ ของหน้าเว็บไซต์ โดยทำให้ CSS สามารถปรับตัวเองตามขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างถูกต้อง
2. Fluid Grid: เป็นโครงสร้างของเลเยอร์ HTML ที่มีความยืดหยุ่นเพื่อปรับขนาดและจัดวางขององค์ประกอบภายในได้อย่างเหมาะสมกับอุปกรณ์แตกต่าง ๆ
3. Flexible Images: เป็นรูปภาพที่สามารถยืดหยุ่นขยายหรือหดให้พอดีกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อให้รูปภาพแสดงผลให้ถูกต้องและไม่เกิดการบิดเบี้ยว
4. CSS Grids: เป็นเลเยอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะเพื่อเป็นกรอบสร้างเว็บไซต์ อนุญาตให้สามารถรวมองค์ประกอบที่แตกต่างกันและจัดเรียงได้อย่างสอดคล้องกับเลเยอร์หลักเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตอบสนองต่อการแสดงผลบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน
ปัญหาที่พบบ่อยใน Responsive HTML
เมื่อพัฒนาโค้ด Responsive HTML อาจเกิดปัญหาบางอย่างที่ควรระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นี่คือสามปัญหาที่พบบ่อย:
1. รูปภาพขยายหรือหดไม่ถูกต้อง: หากไม่ได้ใช้รูปภาพที่ยืดหยุ่นได้ในโค้ด Responsive HTML อาจทำให้รูปภาพขยายหรือหดไม่ถูกต้อง ทำให้ภาพแสดงผลบนอุปกรณ์ที่ใช้งานไม่สมบูรณ์
2. ปรับเลเยอร์หน้าจอไม่ถูกต้อง: หากไม่ปรับเลเยอร์หน้าจอให้พอดีกับหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งาน อาจทำให้เนื้อหาแสดงผลไม่ในที่ต้องการหรือใช้พื้นที่ไม่เต็มที่
3. การแสดงผลที่ช้า: การใช้รหัสที่ซับซ้อนอาจทำให้เว็บไซต์แสดงผลช้าลง ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่พอใจและอาจเป็นปัญหาที่ต้องการแก้ไข
4. การออกแบบไม่ถูกต้อง: การออกแบบหน้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่อาจทำให้ผู้ใช้งานงงๆ เกี่ยวกับวิธีการเดินทางเว็บไซต์หรือหาข้อมูลที่ต้องการ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ Responsive HTML
1. Responsive HTML คืออะไรและทำไมถึงจำเป็นต้องใช้?
Responsive HTML เป็นการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ที่สามารถปรับขนาดและแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, หรือสมาร์ทโฟน การใช้ Responsive HTML ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบายเหมือนกันทุกอุปกรณ์
2. CSS Grids และ Fluid Grids คืออะไรและความแตกต่างของพวกเขาอยู่ที่ไหน?
CSS Grids เป็นระบบกรอบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดเรียงองค์ประกอบในเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับเลเยอร์หลัก เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ตอบสนองต่อการแสดงผลบนหลายอุปกรณ์
Fluid Grids เป็นเลเยอร์ HTML ที่สามารถปรับขนาดและจัดวางขององค์ประกอบภายในได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งาน
ความแตกต่างของพวกเขาอยู่ที่จุดประสงค์ของการใช้งาน CSS Grids จะช่วยกำหนดรูปแบบเลย์เอ้าท์ของเว็บไซต์ ในขณะที่ Fluid Grids จะช่วยปรับเปลี่ยนขนาดขององค์ประกอบภายในเช่น รูปภาพ และข้อความในขณะที่ยังรักษาอัตราส่วนที่ถูกต้อง
3. Media Query คืออะไรและทำงานอย่างไร?
Media Query เป็นเทคนิคของ CSS ที่ใช้ในการจัดการการแสดงผลของส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ โดยทำให้ CSS สามารถปรับตัวเองตามขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างถูกต้อง โดยเมื่อค่าขนาดหน้าจอตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ระบบจะเรียกใช้ CSS ที่ถูกใช้งานเฉพาะแบบไดนามิกส์สำหรับแต่ละอุปกรณ์ เช่น แสดงหรือซ่อนส่วนของเว็บไซต์
4. มีเครื่องมือหรือแนวทางในการทดสอบและปรับปรุง Responsive HTML บนหลายอุปกรณ์หรือไม่?
ใช่, มีหลายเครื่องมือและแนวทางในการทดสอบและปรับปรุงเว็บไซต์ที่ใช้ Responsive HTML บนหลายอุปกรณ์ บางตัวอย่างเช่น:
– Device Testing Tools: เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถทดสอบเว็บไซต์บนหลายอุปกรณ์จากคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตถึงสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย เพื่อตรวจสอบการทำงานและความถูกต้องของหน้าเว็บไซต์
– Browser DevTools: Chrome, Firefox, และเบราว์เซอร์อื่น ๆ มีเครื่องมือพัฒนาภายในที่ช่วยให้คุณปรับแก้ไข CSS และดูการแสดงผลบนหน้าจอที่แตกต่าง
– Responsive Design Testing Websites: เว็บไซต์เหล่านี้อนุญาตให้คุณปรับขนาดหน้าจอเสมือนอย่างง่ายดายเพื่อดูว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถปรับแสดงผลได้อย่างถูกต้องกับหลาย ๆ ขนาดหน้าจอ
– W3C Validator: เครื่องมือดัชนีวิเคราะห์ HTML และ CSS ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดที่อาจมีผลกระทบต่อทั้งหน้าเว็บไซต์
การแสดงผลเว็บไซต์ที่สอดคล้องกับหลายอุปกรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้ Responsive HTML เป็นวิธีที่ดีที่ส
Responsive Web Design ตัวอย่าง
การโลดแล่นบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันจึงทำให้การออกแบบเว็บไซต์ที่ตอบรับหน้าจอและอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนกันเป็นสิ่งจำเป็น ตราบใดที่คุณต้องการให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา การใช้ Responsive Web Design (การออกแบบเว็บไซต์ที่ตอบสนอง) มาช่วยเราก็จะมีการแสดงผลที่ถูกต้องและเพียงพอบนหน้าจอขนาดต่างๆ พร้อมฟังก์ชันต่างๆ ที่ยิ่งให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
Responsive Web Design คืออะไร?
Responsive Web Design (RWD) หรือ การออกแบบเว็บไซต์ที่ตอบสนอง คือการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถปรับขนาดของเนื้อหาและเพียงพอที่จะเหมาะสมกับหน้าจอที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบไม่จำเป็นต้องมีการสร้างหน้าเว็บไซต์แยกต่างหากสำหรับมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
หน้าที่ของ Responsive Web Design ก็คือการสร้างและปรับเปลี่ยนเนื้อหาของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับขนาดของหน้าจอของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้เพื่อประสบการณ์การเรียกดูที่เน้นคุณภาพและการประสานงานที่ดี
ปัจจุบันแผนผังที่ใช้บ่อยที่สุดในการออกแบบเว็บไซต์โดย Responsive Design คือ Mobile First ซึ่งหมายถึงการออกแบบจากมือถือก่อนและต่อมาจึงปรับฟังก์ชันและหน้าจอให้สอดคล้องกับแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์
ทำไมต้องใช้ Responsive Web Design?
โดยมลรัฐ ผู้สร้าง JavaScript library ที่มีชื่อว่า jQuery เคยกล่าวว่า “ในยุคสมัยที่แท็บเล็ตและโทรศัพท์มีมากขึ้น เราควรพัฒนาบนการออกแบบมือถือก่อนเสมอ” และเคยเทียบความสำคัญของ RWD กับการออกแบบเช่นเดียวกับการออกแบบที่เปลี่ยนไปในสมัยข้างหน้า ตอนนั้นผู้สร้างคงไม่รู้สึกหวังว่าเว็บไซต์จะเหลืออีกนาน แต่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในปัจจุบันมีความคาดหวังที่สูงขึ้น การออกแบบ RWD ไม่เพียงแค่ช่วยแสดงผลอยู่ในหน้าจอต่างๆ แต่ยังช่วยให้คุณเลือกใช้และเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา
ความสำคัญของ Responsive Web Design
1. ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น: หากเว็บไซต์ไม่ตอบสนอง ผู้ใช้จะต้องมีความยากลำบากในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณบนอุปกรณ์ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เว็บไซต์บางส่วนอาจไม่แสดงผลสูงสุดหรือแสดงผลผิดพลาดทำให้เกิดความผิดพลาดในการนำทางหรือการอ่านเนื้อหา ด้วย RWD เว็บไซต์ที่ตอบสนองจะให้ประสบการณ์เรียกดูเนื้อหาที่ปราศจากข้อผิดพลาดและช่วยเพิ่มพูนความพึงพอใจในการใช้งาน
2. คิดง่ายและประหยัดเวลาในการพัฒนา: การพัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์แบบ Responsive Design จะอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนา เนื่องจากไม่จำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์แยกที่สำหรับแต่ละอุปกรณ์ การอัปเดตและบำรุงรักษาเว็บไซต์ก็จะง่ายขึ้นเนื่องจากมีเพียงเว็บไซต์เดียวที่ต้องดูแล
3. การเพิ่มทราฟิกให้กับการค้นหา: การตอบสนองที่ถูกต้องของเว็บไซต์จะอยู่ในประการสำคัญในการตามรอยเว็บไซต์ของคุณในการปรับปรุงคะแนน SEO การออกแบบรีสพอนซิฟขนาดเล็ก, พร้อมบริหารจัดการรายละเอียดในหน้าเดียวกันที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์หลากหลาย
คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับ Responsive Web Design
1. ต้องออกแบบหน้าเว็บไซต์ด้วย RWD อย่างไร?
ในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ด้วย RWD คุณจะต้องใช้ CSS Media Queries เพื่อปรับเปลี่ยนการแสดงผลของเนื้อหาที่สมมติในหน้าจอขนาดต่างๆ ตัวอย่างเช่นคุณสามารถใช้ Media Queries เพื่อปรับขนาดตัวอักษร เทมเพลต, และแถบเมนู เพื่อให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดเล็กกว่า
2. การออกแบบเว็บไซต์แบบ Responsive Design จะทำให้โหลดเว็บไซต์ช้าขึ้นหรือไม่?
คำตอบคือไม่จริง ถ้าคุณออกแบบและเขียนโค้ดของคุณให้เหมาะสมและตั้งค่าให้เหมาะสมถูกต้อง ไม่เพิ่มการร้องขอที่ไม่จำเป็นต่อเซิร์ฟเวอร์ เว็บไซต์ของคุณจะโหลดอย่างรวดเร็ว ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องโดยบูรณาการภาพหน้าจอทั้งหมดที่ควรตรงกัน
3. จะมีค่าใช้จ่ายในการออกแบบหน้าเว็บไซต์แบบ Responsive Design มากขึ้นหรือไม่?
ค่าใช้จ่ายในการออกแบบเว็บไซต์ RWD จะไม่แตกต่างจากการออกแบบเว็บไซต์ปกติ เพราะใช้เทคนิคที่มีอยู่แล้ว เราสามารถใช้ฟรี CSS Framework เช่น Bootstrap สำหรับเว็บไซต์ของคุณแทนการพัฒนาเองใหม่ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงต้นทุนในการพัฒนาและการบำรุงรักษาเว็บไซต์ในระยะยาวของคุณ
สรุป
Responsive Web Design เป็นเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ที่คุณควรใช้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างถูกต้องและง่ายดาย การออกแบบ RWD ให้แสดงผลเหมาะสมกับหน้าจอและอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณ
ขนาดหน้าจอ Responsive
ขนาดหน้าจอ responsive คือการออกแบบหน้าเว็บเพื่อให้แสดงผลได้ตรงกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, หรือสมาร์ทโฟนก็ตาม ผู้ออกแบบเว็บไซต์จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้องเพื่อให้หน้าเว็บจัดระเบียบและโครงสร้างที่เหมาะสมกับหน้าจอขนาดต่าง ๆ
หากหน้าเว็บไม่ได้ออกแบบให้เป็น responsive โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่ผู้คนใช้งานอุปกรณ์มากมาย เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต การแสดงผลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ช่วงเวลาในการโหลดหน้าเว็บช้าลง ผู้ใช้งานอาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือทำรายการได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งอาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่พอใจและเลิกรับการใช้บริการหน้าเว็บนั้น ๆ
โดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์ที่ออกแบบให้เป็น responsive จะมีการปรับแต่งเนื้อหา, การจัดวาง, และขนาดของภาพ โดยอัตราส่วนหรือขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ใช้เป็นตัวกำหนด และองค์ประกอบดังกล่าวจะถูกปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติเมื่อเปลี่ยนหน้าจอ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่จะต้องมีความรู้และทักษะการพัฒนาเว็บไซต์ responsive ของนักออกแบบเว็บไซต์
ความสำคัญของการออกแบบหน้าจอ Responsive
1. ประสิทธิภาพการใช้งาน: การออกแบบหน้าจอ responsive ช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลและทำรายการบนเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะอยู่ที่สถานที่ใดก็ตามที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต การรอคอยหน้าเว็บที่โหลดช้าก็จะลดลงและความสุ่มเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดในกระบวนการทำรายการก็ลดลงด้วย
2. ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น: เว็บไซต์ที่ responsive จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีทั้งในเรื่องของการอ่านเนื้อหา, การเลื่อนหน้าเว็บ, และการใช้งานทุกประเด็น นักออกแบบสามารถจัดวางเนื้อหา, รูปภาพ, และส่วนอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องโทรลงขยายหรือเลื่อนแนวนอนเพิ่มเติมเพื่อดูเนื้อหา
3. ความรอบรู้สึกของผู้ใช้งาน: เว็บไซต์ที่ออกแบบให้เป็น responsive จะสร้างความร่วมมือกับผู้ใช้งานในเรื่องของการใช้งาน ผู้ใช้งานจะไม่รู้สึกว่าได้รับการจัดวางหน้าเว็บที่ไม่เหมาะสม และอาจช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานเว็บไซต์ต่อไป
4. โอกาสทางธุรกิจ: เว็บไซต์ที่ responsive ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานที่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ในทุกขนาดหน้าจอ สามารถทำรายการและซื้อสินค้าได้อย่างสมำเสมอ มีโอกาสเป็นลูกค้าประจำและกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
5. การเลื่อนได้รับความนิยมสูงขึ้น: ในยุคปัจจุบันที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้รับความนิยมที่สูงขึ้น การออกแบบหน้าจอ responsive จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ใช้งานมีความต้องการในเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์พกพาอย่างอุปคณิตเท่านั้น
FAQs
Q: อะไรคือหน้าจอ responsive?
A: หน้าจอ responsive คือการออกแบบหน้าเว็บโดยมีการปรับแต่งเนื้อหา, การจัดวาง, และขนาดของภาพให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลได้ตรงกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่
Q: ทำไมการออกแบบหน้าจอ responsive ถึงมีความสำคัญ?
A: การออกแบบหน้าจอ responsive มีความสำคัญอันดับต้น ๆ เพราะช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ ประสบการณ์ผู้ใช้จะดีขึ้น ผู้ใช้งานจะมีความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและทำรายการบนเว็บไซต์ อีกทั้งยังมีโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น
Q: ข้อมูลใดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในหน้าจอ responsive?
A: ในหน้าจอ responsive, สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหา, การจัดวาง, และขนาดของภาพได้อย่างอัตโนมัติเมื่อเปลี่ยนหน้าจอ การจัดวางเนื้อหาและรูปแบบอื่น ๆ จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอใหม่
Q: การออกแบบหน้าจอ responsive มีองค์ประกอบหลักอะไรบ้าง?
A: การออกแบบหน้าจอ responsive มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญทั้งหมดคือการปรับแต่งเนื้อหา, การจัดวาง, และขนาดของภาพให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอแต่ละครั้ง
Q: ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเว็บไซต์ responsive บนอุปกรณ์ใดได้บ้าง?
A: ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเว็บไซต์ responsive บนทุกอุปกรณ์ที่มีหน้าจอ เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน, และอุปกรณ์พกพาอื่น ๆ
มี 27 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธีทํา responsive web.












![สร้างเว็บให้ Responsive รองรับทุกขนาดหน้าจอด้วย CSS Grid [ตอนที่ 1] - YouTube สร้างเว็บให้ Responsive รองรับทุกขนาดหน้าจอด้วย Css Grid [ตอนที่ 1] - Youtube](https://i.ytimg.com/vi/ha9j5S00ZQs/maxresdefault.jpg)


![เรียนรู้การสร้างเว็บ Responsive รองรับทุกขนาดหน้าจอด้วย CSS Grid [Re-upload] - YouTube เรียนรู้การสร้างเว็บ Responsive รองรับทุกขนาดหน้าจอด้วย Css Grid [Re-Upload] - Youtube](https://i.ytimg.com/vi/0ZUCKTc3p0o/maxresdefault.jpg)


![Responsive] ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Responsive Web Design ! - Designil Responsive] ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Responsive Web Design ! - Designil](https://www.designil.com/wp-content/uploads/2012/05/responsive-web-design-basic.png)

















![เว็บไซต์ WordPress 2021 แค่สวยไม่พอ ต้องมี 7 หัวใจ [เช็คทีละข้อ] เว็บไซต์ WordPress 2021 แค่สวยไม่พอ ต้องมี 7 หัวใจ [เช็คทีละข้อ]](https://www.teeneeweb.com/wp-content/uploads/2020/12/responsive-web.png)



![Responsive] ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Responsive Web Design ! - Designil Responsive] ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Responsive Web Design ! - Designil](https://www.designil.com/wp-content/uploads/2021/07/media-queries.png)

ลิงค์บทความ: วิธีทํา responsive web.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ วิธีทํา responsive web.
- 6 ขั้นตอน การทำ Responsive Web Design – MakeWebEasy
- 4 วิธีการทำเว็บไซต์แบบ Responsive ที่ใช้กันทั่วโลก !! – Designil
- เทคนิคการทำ Responsive Design ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณน่าสนใจ
- ทำเว็บให้รองรับมือถือ (Responsive Web Design) – Themevilles
- แนวคิดและวิธีปรับใช้ CSS และ Grid ในการทำ Responsive Web
- Responsive Web Design คืออะไร? คิดยังไง? ทำยังไง?
- Responsive Web Design คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการทำ SEO?
- ขนาดหน้าเว็บไซต์มาตรฐาน กำหนดยังไงให้พอดีกับจอ – Grappik
- หลักการ ออกแบบเว็บ ขั้นพื้นฐาน พร้อมองค์ประกอบและรูปแบบโครงสร้าง
- RESPONSIVE WEBSITE วิธีที่จะทำให้เว็บไซต์เปิดได้ทุกขนาดหน้าจอ
- ห้ามพลาด เทคนิคทำเว็บ Responsive Web Design ให้เว็บปัง อ่านง่าย
- HTML Responsive Web Design | hostatom
ดูเพิ่มเติม: blog https://shopacckhuyenmai.com/category/middle-east